บอสใหญ่ของ "แอมเวย์" ระบุ ปีหน้ายังต้องเผชิญสภาพ "ฟูล เยียร์ อิมแพกต์" ห่วงการบริหารจัดการต้นทุนในองค์กร เตรียมอัดงบเฉียด 700 ล้านบาทในการกระตุ้นตลาด ยอดขายโตแตะ 9,000 ล้านบาท พร้อมโฟกัสทำ ตลาด 2 แบรนด์หลักอาร์ทิสทรีและนิวทริไลท์ ล่าสุดเล็งเปิดตัวเครื่องกรองอากาศแบรนด์ใหม่ "แอทมอสเฟียร์"

นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีหน้าถือเป็น "ฟูล เยียร์ อิมแพกต์" ที่ต่อเนื่องมาจากปีนี้ที่มีปัจจัยลบหลายด้าน อาทิ สึนามิ, ราคาน้ำมัน และความมั่นคงปลอดภัย ฯลฯ ซึ่งสิ่งที่กังวลในปีหน้าน่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ล่าสุดจึงใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ลงทุนด้านไอทีและเพิ่มประสิทธิภาพร้านแอมเวย์ ชอป รวมถึงเปิด แอมเวย์ ชอป อีกประมาณ 2-3 แห่ง ได้แก่ ที่พระราม 2, เทพารักษ์ และพระนครศรีอยุธยา จากปัจจุบันมีทั้งหมด 39 แห่ง อีกทั้งยังเตรียมรีโนเวตแอมเวย์ ชอปบางสาขาที่เริ่มเก่าและเปิดมานานแล้ว ส่วนในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคนั้นโดยส่วนตัวแล้วมองว่ายังดีอยู่

นอกจากนี้ แผนการดำเนินธุรกิจของแอมเวย์ ในปี 2549 บริษัทฯได้เตรียมงบประมาณรวมกว่า 580 ล้านบาท แบ่งเป็นงบส่งเสริมการขาย 500 ล้านบาท และงบการตลาด 80 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้ยอดขายในรอบปีบัญชีใหม่ (1 ม.ค. 49- 31 ธ.ค.50) มีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลักหรือมียอดขายกว่า 9,000 ล้านบาท หลังจากที่ปีนี้ยอดขาย (นับตั้งแต่ ส.ค.47-ก.ย. 48) ไม่เป็น ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีผลประกอบการรวม 8,990 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตที่ลดลง 3%

พร้อมกันนี้ในปีหน้าบริษัทฯยังเตรียมที่จะทำการตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทอย่างเช่น "าร์ทิสทรี"และ "วทริไลท์"อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการ นำสินค้าใหม่ที่เน้นเรื่องสุขภาพและความงามมาเปิดตัว และล่าสุดบริษัทฯเตรียมเปิดตัวเครื่อง กรองอากาศ รุ่นที่ 2 ภายใต้แบรนด์ "แอทมอสเฟียร์ (Atmosphere)" ในช่วงปีหน้า หลังจากที่ปัจจุบันเครื่องกรองอากาศของแอมเวย์มีขายมานานกว่า 5 ปีแล้ว ภายใต้ชื่อว่า"แอมเวย์ แอร์ ทรีทเมนต์ ซิสเต็ม (เอทีเอส)"

ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่มนี้ ได้แก่ เครื่องกรองอากาศมียอดขาย 1 แสนเครื่อง, เครื่องกรองน้ำ ขายไปแล้วกว่า 3 แสนเครื่อง และ เครื่องครัว โดยยอดขายรวมกลุ่มนี้ปัจจุบันมีประมาณ 1,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ของยอดขายรวม ซึ่งในปีหน้าหลัง จากที่มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่และการทำตลาดมากขึ้น คาดว่าสัดส่วนจะเปลี่ยนไปเป็น 19%

ในส่วนของนักธุรกิจอิสระของแอมเวย์ที่ปัจจุบันมี 2.8 แสนรหัส แบ่งเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 18-25 ปีมีกว่า 30% โดยในปีหน้าบริษัทฯเตรียม 2 แนวทางสำหรับนักธุรกิจอิสระ ได้แก่ การสร้างศักยภาพให้ผู้นำหรือนักธุรกิจอิสระให้มีความแข็งแกร่ง ด้วยการจัดฝึกอบรม และการนำกลยุทธ์ด้านการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าหรือซีอาร์เอ็มมาใช้มากขึ้น รวมถึงการสร้างตรา สินค้าแอมเวย์แบรนด์ในระยะยาวมากขึ้น ผ่าน ทางการจัดกิจกรรมและการสร้างประสบการณ์ร่วมในตัวสินค้า เป็นต้น