“แซนซัน” แม่ทัพธุรกิจขายตรงเฮอร์บาไลฟ์คนใหม่ วางหมากเร่งสร้างรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพิ่มประสิทธิภาพผู้แทนจำหน่าย สู้ศึกขายตรงแข่งเดือด โหมกลยุทธ์สร้างเครือข่ายผุด”นิวทริชั่น คลับ” เปิดธุรกิจร้านบริการผลิตภัณฑ์โภชนาการเฮอร์บาไลฟ์ล่อใจผู้แทนจำหน่าย หวังสินค้าเข้าถึงลูกค้าผลักดันรายได้โต ปีหน้าตั้งเป้าเปิด 800 แห่ง

เร่งขยายยึดหัวเมืองต่างจังหวัด สิ้นปีรายได้โตเป็นเลขสองหลักเกินเป้าหมาย

นายทิม แซนซัน รองประธานภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท เฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงเฮอร์บาไลฟ์ เปิดเผยในฐานะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดทั่วไปประจำประเทศไทยว่า นโยบายของบริษัทจากนี้มุ่งเน้นการสร้างรากฐานธุรกิจให้มีความมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีลูกค้าเป็นฐานการบริโภคอย่างมั่นคง และประการสำคัญ คือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผู้แทนจำหน่าย การสร้างทีมขายให้มีความแข็งแกร่ง เนื่องจากมองว่าไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพมียอดขายติดอันดับ 6 ใน 13 ประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากไต้หวัน เกาหลี มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และไทย ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมองว่าไทยสามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในอนาคต
กลยุทธ์การผลักดันธุรกิจขายตรงของเฮอร์บาไลฟ์ให้เติบโต บริษัทได้นำโมเดลการสร้างเครือข่ายสุขภาพ “นิวทริชั่น คลับ” หรือ “คลับ สุขภาพ” จากประเทศเม็กซิโก มาเปิดตัวที่ประเทศไทยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยรูปแบบนิวทริชั่น คลับ เปิดโอกาสให้ผู้แทนจำหน่ายเปิดร้านให้บริการผลิตภัณฑ์โภชนาการที่เหมาะสมของเฮอร์บาไลฟ์

โดยมีผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ ซึ่งคาดว่าสิ้นปีเปิดครบ 300 แห่ง โดยแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 80% และต่างจังหวัด 20% และวางแผนขยายสาขาไปตลาดต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่เพิ่มขึ้น ส่วนปีหน้าตั้งเป้าขยายเพิ่ม 800 แห่ง ทั้งนี้การเปิดนิวทริชั่น คลับ สามารถผลักดันให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

และเกิดการบริโภคเป็นประจำกระทั่งกลายเป็นผู้แทนจำหน่าย
“โมเดลนิวทริชั่น คลับ เปิดตัวที่เม็กซิโกเป็นประเทศแรก และประสบความสำเร็จอย่างสูงผลักดันให้มียอดขายเติบโต 3 หลัก โดยมีรายได้เป็นอันดับ 1 ของโลก จากการดำเนินธุรกิจ 72 ประเทศของบริษัท และไต้หวันได้นำโมเดลดังกล่าวมาพัฒนาและปรับใช้ในประเทศ ผลักดันกลายมียอดขายเป็นอันดับ 3 ของโลก”

นโยบายการเปิดตัวสินค้าใหม่บริษัทไม่มุ่งเน้นเปิดตัวสินค้าเป็นจำนวนมาก ปีละ 1-2 รายการเท่านั้น โดยปีหน้าจะมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ลงตลาด จากปัจจุบันสินค้าที่สร้างรายได้เป็นกลุ่มชาเขียวและเครื่องดื่มในรูปแบบเชค สำหรับปัจจัยด้านการเมืองไทย ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวมากนัก และกำลังการซื้อของผู้บริโภคไทย บริษัทมองว่าเป็นโอกาสทางการตลาด

คือ มีคนสนใจสมัครเป็นผู้แทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพราะต้องการหารายได้เสริม และผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายและมองหาสินค้าที่สอดคล้องกับกำลังซื้อ

สำหรับผลประกอบการในครึ่งปีแรกของเฮอร์บาไลฟ์ทั่วโลกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่ายอดขายไตรมาส 3 ของปีนี้ มีอัตราการเติบโตลดลง โดยมียอดขายสุทธิ 600.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการแกว่งตัวจากค่าเงินดอลลาร์ และมีรายได้สุทธิจำนวน 57.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเมื่อเทียบกับปีช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ส่วนผลประกอบการในประเทศไทยสิ้นปีนี้ เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่าย 2 หมื่นราย