บางครั้งการจะทำหนังสือดีๆ ออกมาสักเล่มหนึ่งก็ไม่ใช่ของง่ายนัก
ในฐานะที่เป็นบรรณาธิการ บางเวลาเรามักจะเจอปัญหาที่คิดไม่ตก และปัญหานั้นก็คือปัญหาของเรื่องรายได้
กองทัพเดินด้วยท้องฉันใด หนังสือเล่มหนึ่งจะอยู่ได้ก็เพราะรายได้ฉันนั้น
รายได้ในที่นี้ สำหรับ “ผู้จัดการ” แล้ว คือรายได้จากการขายหนังสือและรายได้จากการโฆษณา
กองบรรณาธิการหนังสือฉบับนี้มักจะต้องเจอปัญหาในเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
ในการทำข่าวธุรกิจขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง ถ้าข่าวนั้นตีพิมพ์ออกไปและผู้ที่อยู่ในข่าวนั้นเผอิญเป็นลูกค้าโฆษณาของเราด้วย
และข่าวชิ้นนั้นก็อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทที่ลงโฆษณากับเราออกมาในแง่ลบ
เราจะทำอย่างไรดี?
เพราะถ้าเราลงไป เราก็คงจะต้องถูกตัดโฆษณาอย่างแน่นอนที่สุด!
แต่ถ้าเราไม่ลงล่ะ! เราก็คงจะนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ เพราะหนังสือเล่มนี้ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วและเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็เพราะมีคนซื้ออ่านและมีคนนิยมมาก
จากจุดของความนิยมนี้แหละที่ทำให้เจ้าของสินค้าเล็งเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสื่อที่ดีสำหรับสินค้าของเขาก็เลยลงโฆษณา
ฉะนั้น เมื่อคิดได้เช่นนี้ “ผู้จัดการ” ก็เลยมีมติขึ้นมาว่า
ข่าวอะไรก็ตามถ้ามีความจำเป็นจะต้องลงก็ต้องลง!
ไม่เช่นนั้นแล้ว เราก้มหน้าก็จะอายดินและเงยหน้าก็จะอายฟ้า
เหมือนอย่างเช่นกรณี สุวัฒน์ แดงพิบูลย์สกุล ฟ้องบริษัทโกดัก (ประเทศไทย)
จำกัด ต่อศาลแรงงานในเรื่องที่เราจะลงต่อไปนี้
เดิมทีเราไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ให้ความสนใจและก็ไม่รู้
แต่มาวันหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ของโกดักหลายคนและหลายหน้าที่บอกผ่ายฝ่ายโฆษณามายังเราว่า
เรื่องโกดักถูกฟ้องร้องนั้นขอให้เก็บข่าวไว้หน่อย และปีหน้าโกดักกำลังแพลนโฆษณาให้หนังสือ
“ผู้จัดการ” อยู่ มิหนำซ้ำยังมีผู้บริหารระดับสูงของโกดักคนหนึ่งไปพร่ำในงานเลี้ยงหางไก่แห่งหนึ่ง
ที่เราเผอิญไปร่วมด้วยและได้ยินเขาพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “เรื่องฟ้องร้องนี่เราปิดข่าวได้หมดเพราะหนังสือทุกเล่มต้องพึ่งพาอาศัยเราในเรื่องโฆษณา”
เท่านั้นเองครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ มันเหมือนกับใครถ่มเสมหะใส่หน้าเราแล้วบังคับให้เรายอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน
เรารีบมาค้นเรื่องที่ศาลแรงงานเป็นเดือนถึงจะเจอเรื่อง สุวัฒน์ฯ ฟ้องโกดัก
เราไม่ได้สนใจว่าใครถูกใครผิดในประเด็นแรก ตาเราสนใจเรื่องนี้มากเพราะ:-
1. เป็นพนักงานบริหารระดับสูงฟ้องบริษัทข้ามชาติ (กรณีเดียวกับที่เราเคยทำเรื่องทัศนียาฯ
ฟ้องสายการบิน SAS)
2. เป็นคดีแรกที่พนักงานยังทำงานอยู่ในบริษัทและฟ้องบริษัท
เมื่อเราสืบเสาะเรื่องได้มากขึ้นและลึกเข้าไปอีก เราคิดว่าน่าจะเป็นปากเสียงให้สุวัฒน์ฯ
เขาเสียหน่อย ไม่ใช่เพราะว่าเรารู้จักสุวัฒน์หรือไม่? แต่เพียงความกล้าหาญของเขาที่กล้าฟ้องบริษัทอย่างโกดักทั้งๆ
ที่ยังนั่งทำงานอยู่ ก็เป็นวีรกรรมที่สมควรจะชมเชยอยู่แล้ว
ยิ่งมาได้ยินผู้บริหารปากเสียของบริษัทโกดักที่บอกว่าปิดหน้าหนังสือพิมพ์ได้ด้วยโฆษณา
ยิ่งทำให้เราเห็นว่า สุวัฒน์ฯ เป็นคนโดดเดี่ยว น่าสงสาร เพราะสุวัฒน์คงไม่มีปัญญาที่จะมีงบโฆษณามาล่อหนังสือพิมพ์ได้
ฝ่ายโฆษณาเราก็คงจะเสียใจมากที่เราลงเรื่องนี้ไป เพราะนั่นย่อมหมายถึงงบโฆษณาเป็นแสนที่อาจจะหลุดลอยไป
แต่เขาก็จะเข้าใจและเห็นใจเราเพราะเขารู้ว่าถ้าเราไม่มีอุดมการณ์และคุณธรรมแล้ว
ก็คงไม่มีคนอ่านหนังสือเรามากถึงขนาดนี้หรอก
และถ้าหนังสือเล่มนี้ไม่มีคนนิยมมากแล้ว ไปกราบเท้าให้เขาลงโฆษณากับเรา
เขาก็คงจะไม่มีวันลงแน่ๆ
เราไม่ได้โกรธอะไรกับโกดัก ทุกวันนี้เราก็ยังใช้ฟิล์มโกดักถ่ายรูปอยู่ แต่ถ้าโกดักไม่ลงโฆษณากับเราตามคำขอร้องแกมขู่ของเจ้าหน้าที่ด้านนี้ที่รู้ว่าเราจะลงเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้เอง
เราก็ไม่ว่าโกดัก และเราก็เข้าใจโกดัก!
แต่เราก็ต้องลง เพราะเรากลัวเราจะนอนฝันร้ายไปตลอดชีวิต
และเรากลัวสุวัฒน์ฯ จะผิดหวังในสื่อมวลชนของคนไทย
เราเพียงอยากจะบอกให้โกดักรู้ว่า “ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ และมีบ้างไม่พึงกระทำ”
และคนเราเกิดมาครั้งหนึ่งก็ควรจะทำสิ่งที่มีความหมายในชีวิตบ้าง ถึงจะนอนได้ตาหลับ
พนักงานโกดักจะแปลข้อเขียนเราให้นายหัวที่เป็นฝรั่งอ่านบ้างก็จะเป็นอานิสงส์แก่บริษัทโกดัก
(ประเทศไทย) จำกัด
เราเองก็ต้องการให้โกดักได้อานิสงส์มากกว่านี้ ก็เลยตัดสินใจแปลข้อเขียนของเราส่งไปให้ประธานกรรมการของโกดักที่สำนักงานใหญ่เมืองโรเชสเตอร์ได้อ่านแล้ว
สำหรับคนไทยทั้งหลายที่ทำงานร่วมกับสุวัฒน์ฯ ในบริษัทโกดัก (ประเทศไทย)
จำกัด เราทราบดีว่าพวกคุณอาจจะถูกเพ่งเล็งจากฝรั่งและเจ้านาย ถ้ายังพูดคุยและให้ความสนิทสนมกับสุวัฒน์ฯ อยู่
เพราะคุณก็ห่วงว่างานที่เงินเดือนสูงๆ อย่างนี้ถ้าตกงานแล้วจะไปหางานที่ไหนทำ
แน่นอนคุณต้องห่วงว่าคุณจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มาใช้จ่าย ฯลฯ
แต่เราเพียงขอให้คุณเห็นใจและเข้าใจสุวัฒน์เขาบ้าง ว่าที่เขาทำไปเช่นนั้นเพราะหลักการ
และความถูกต้อง ก่อนที่ศาลจะพิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด พวกคุณไม่น่าจะทำร้ายจิตใจสุวัฒน์เขาด้วยวิธีนี้เลย
อย่าลืมว่าสักวันหนึ่งคุณอาจจะต้องอยู่ในสภาพของสุวัฒน์ฯ เขาก็ได้ !
ก็คงอีกไม่นานนี้แหละที่คดีแรงงานและคดีอาญาในเรื่องการปลอมแปลงเอกสารและส่งเอกสารเท็จให้ศาลก็จะต้องสิ้นสุดลง
เมื่อถึงวันนั้นก็คงจะรู้ว่ามีใครติดคุกบ้างหรือเปล่า?
ผู้ชนะอาจเป็นผู้แพ้ที่ยับเยินก็ได้
และเมื่อถึงวันนั้น ผู้แพ้อยากจะให้เราเป็นปากเสียงให้ ไม่ว่าจะเป็นสุวัฒน์หรือโกดักเอง
เราก็พร้อมจะทำหน้าที่ของเราโดยไม่เกี่ยงงอนเลย
สนธิ ลิ้มทองกุล
บรรณาธิการ